โครงการ SML (Small, Medium, Large) ของรัฐบาลไทยปัจจุบัน ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนโยบายที่ถูกฟื้นฟูจากยุคพรรคไทยรักไทยสมัยนายทักษิณ ชินวัตร โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก กระจายอำนาจ และส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาตัวเอง ผ่านการจัดสรรเงินจากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ซึ่งเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังในปีงบประมาณ 2568 (เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567)

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ SML:
- งบประมาณและการแจกจ่าย
- รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 11,900 ล้านบาทในปี 2568 เพื่อกระจายไปยังหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ
- การแจกเงินแบ่งตามขนาดของหมู่บ้าน:
- Small (เล็ก): 200,000–300,000 บาท
- Medium (กลาง): 300,000–400,000 บาท
- Large (ใหญ่): 400,000–500,000 บาท
- ตัวเลขที่แน่นอนอาจมีการปรับเปลี่ยนตามเกณฑ์ เช่น จำนวนประชากรหรือผลการบริหารงานในอดีตของแต่ละชุมชน
- วัตถุประสงค์
- กระจายอำนาจ: ให้ชุมชนมีอิสระในการตัดสินใจว่าเงินจะถูกใช้อย่างไร โดยเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะของท้องถิ่น
- พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน: สนับสนุนการสร้างรายได้ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เกษตรกรรม หรือการประกอบอาชีพ
- เสริมสร้างความยั่งยืน: ส่งเสริมให้ชุมชนบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และบางหมู่บ้านที่ผลงานดีอาจได้รับงบเพิ่มในอนาคต
- กำหนดการดำเนินงาน
- รัฐบาลตั้งเป้าเริ่มโครงการอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 (ตามที่ระบุเมื่อต้นปี) แต่ล่าสุดมีความคืบหน้าว่าการสรุปเกณฑ์และระเบียบจะชัดเจนในเดือนมีนาคม 2568 และเงินจะเริ่มทยอยจ่ายจริงภายในเดือนเมษายน 2568
- ชุมชนต้องจัดประชาคมเพื่อเสนอโครงการขอรับเงิน ซึ่งเป็นกลไกที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรง
- ตัวอย่างการใช้งานในอดีตและปัจจุบัน
- สมัยทักษิณ (2548-2549): หมู่บ้านบางแห่งใช้เงิน SML สร้างสาธารณูปโภค เช่น ห้องน้ำสาธารณะ หรือพัฒนาการเกษตร เช่น ซื้ออุปกรณ์ทำนา
- ปัจจุบัน: มีแนวคิดใหม่ เช่น การนำเงินไปซื้อโดรนเกษตรเพื่อพ่นยาหรือปุ๋ย ซึ่งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเป็นทางเลือกที่ชุมชนทำได้ โดยไม่มีการตีกรอบการใช้เงินตายตัว
- จุดเด่นและความท้าทาย
- จุดเด่น: เป็นการให้อำนาจชุมชนจริง ไม่ใช่แค่การสั่งการจากส่วนกลาง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในระยะสั้น
- ความท้าทาย: การบริหารเงินให้โปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดยังเป็นประเด็น เพราะในอดีตบางหมู่บ้านถูกวิจารณ์ว่าใช้เงินไม่ตรงจุด เช่น ซื้อของแจกพรรคพวก หรือบริหารงานไม่โปร่งใส
มุมมองเพิ่มเติม
โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือ “ซอฟต์พาวเวอร์” ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อไทย ที่เน้นการเสริมพลังประชาชน (People Empowerment) ซึ่งสอดคล้องกับแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่นายกฯ แพทองธารประกาศไว้ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับนโยบายอื่น เช่น การแก้หนี้ครัวเรือน หรือดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็งจากฐานราก
